วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2559

เอาชนะความกลัว ความกังวล ในการขับรถได้อย่างไร

สวัสดีค่ะ วันนี้ครูมีสิ่งดีๆมาแนะนำให้ทุกคนนะคะ หลายๆ ท่านกลัวการขับรถ กลัวการใช้รถ
ใช้ถนน ตกใจ ไม่มั่นใจในตัวเอง ทำให้การเรียนไม่มีประสิทธิภาพ และเรียนไปแล้วหลายท่านคิดว่าเสียเงินฟรี 

แล้วจะต้องทำอย่างไรเพื่อชนะความกลัวที่มีอยู่ในหัวของหลายๆท่าน 
ลองอ่านบทความด้านล่างนี้ดูนะคะ อ่านทุกตัวอักษร แล้วทุกคนจะเอาชนะความกลัวในหัวของเราได้ค่ะ




มาเอาชนะความกลัวในการขับรถกันค่ะ

1. เราต้องมีความมั่นใจในตัวเอง และมั่นใจในตัวครูผู้ฝึกสอน
2. ไม่เครียดไม่เกร็ง ไม่กังวลเรื่องอื่นๆ 
3. ตั้งใจฟังคำแนะนำของครูผู้สอน 
4. ปฏิบัติตามคำแนะนำของครูผู้สอนอย่างเคร่งครัด 
5. ให้กำลังใจตัวเอง คิดบวก คิดว่าเราต้องทำได้ ไม่พูดคำว่าจะทำได้หรือป่าว ยากจัง 
6. ตั้งใจฝึกซ้อมและตั้งคำถามกับผู้สอนเป็นระยะ ไม่เข้าใจตรงไหนถามได้เลยทันที 
7. ต้องทำความเข้าใจว่าแต่ละคนมีทักษะไม่เหมือนกัน เป็นช้าเป็นเร็วต่างกัน ฉะนั้นไม่เปรียบเทียบตัวเอง
   กับผู้อื่นและให้เปรียบเทียบกับตัวเราเอง ว่าการเรียนวันนี้ดีกว่าการเรียนในวันที่ผ่านมาหรือไม่ 
8. ใจเย็นๆ มีสติ และมีสมาธิในการเรียน ค่อยเป็นค่อยไป ไม่กดดันตัวเองมากเกินไป

ที่สำคัญที่สุดคือข้อ 5 คิดบวกและให้กำลังใจตัวเองตลอดเวลา สำคัญอย่างไรมาดูประวัติของครูกันค่ะ

ตัวอย่างที่1.  ครู ชื่อเขมจิรา จันทรแก้ว เป็นคนจังหวัดประจวบโดยตรงแต่ไม่เคยได้มีโอกาสได้ทำงานในบ้านเกิดของตนเอง เรียนจบปวช. ที่วิทยาลัยการอาชีพบางสะพาน ในสาชาวิชา การบัญชี และเลือกเรียนในระดับ
ปวส. สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ด้วยเหตุผลเล็กๆ ตามประสาวัยรุ่นว่า "การบัญชีน่าเบื่อไม่ชอบ" และเรียนภาษาอังกฤษในเกรดต่ำสุดในห้องเรียน ก็เพราะความไม่ชอบอีกเช่นกัน แต่รู้หรือไม่คะ ในที่สุด 

#งานครั้งแรกในชีวิต ก็ได้ทำงานในแผนกการบัญชี และเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับชาวช่างชาติทันที  วันแรกที่ทำงานเต็มไปด้วยความกลัว หลีกเลี่ยงการพูดคุยและใช้ภาษาอังกฤษตลอดแต่ด้วยเนื้องานต้องใช้ภาษาอังกฤษไม่ว่าจะเป็นการพูด การส่งเมลล์ การพิมพ์เอกสาร ต้องใช้ภาษาอังกฤษ 90 % ของงานทั้งหมด ครูก็ต้องเริ่มพัฒนาตัวเอง หาหนังสือมาอ่าน และต้องกล้าที่จะสนทนาภาษาอังกฤษให้มากขึ้น การฝึกฝนไม่มีการถูกต้องเสมอไป พูดถูกบ้าง ผิดบ้าง "คิดเสมอว่าถ้าเราทำไม่ได้เราก็คงไม่ได้เงินเดือน เมื่อไม่ได้เงินเดือนเราก็ไม่มีเงิน"  เมื่อไม่มีเงิน แล้วชีวิตของเรา ของครอบครัว ทุกคนที่อยู่ข้างหลังจะทำอย่างไร ดังนั้นสถานการณ์บังคับ ทำให้ต้องเอาความกลัวออกไป แล้วก็สามารถสนทนา และทำเอกสารต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดในที่สุด 




ตัวอย่างที่ 2 ครูเป็นคนที่ไม่กล้าแสดงออกตั้งแต่เด็กๆ สือสารอะไรให้คนอื่นไม่เข้าใจ เวลาครูประจำชั้นสั่งให้ทำรายงานจะเป็นคนพิมพ์แล้วให้เพื่อนในกลุ่มออกไปพูดหน้าชั้นเรียนตลอด มาวันหนึ่งเกิดวิกฤตกับชีวิตตัวเอง ต้องออกไปรับงานเพิ่มเพื่อหารายได้เพิ่มเติม และงานนั้นก็เป็นงานที่ยากสำหรับครูอีกแล้ว "นำทัวร์" พาลูกทัวร์เดินทางไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ที่บริษัทจัดขึ้น หน้าก็คือต้อง เอ็นเตอร์เทรน ลูกทัวร์ ต้องพูดออกไมค์ ต้องประชาสัมพันธ์ ต้องแสดงออกต้องขึ้นเวที ต้องไปร้องเพลงให้ลูกค้าฟัง ต้องนำลูกทัวร์ทำกิจกรรมต่างๆ ต้องออกไปเต้นแร้งเต้นกา

โอ้มันช่างยากมากสำหรับครูที่ไม่เคยแม้แต่จะออกไปพูดหน้าชั้นเรียน แต่ก็ต้องทำต้องเอาความกลัวนั้นออกไป เพราะถ้าเราไม่มีความสามารถตรงนี้ เราก็ทำงานนี้ไม่ได้ เราก็ไม่ได้เงิน เราก็ผ่านวิกฤติไปไม่ได้ "นี่คือวิกฤตเป็นโอกาสทำให้เราเอาชนะความกลัวออกไปได้ค่ะ"

ครูต้องขึ้นร้องเพลงบนเวทีให้ลูกค้าฟัง ตามคำขอของลูกค้า


ครูต้องดูแลลูกทัวร์และบรรยายสถานที่ต่างๆที่ครูจะพาลูกทัวร์ไป ทั้งๆ ที่ครูไม่ได้เรียนไกด์มา ไม่มีความรู้เรื่องสถานที่ท่องเที่ยวนะคะ 

ครูต้องขึ้นเวทีร้องเพลงคู่กับลูกค้าตามคำขอของลูกค้า เด็กหลังห้องต้องขึ้นเวทีร้องเพลง นักเรียนลองนึกนะคะ ว่าครูทำได้อย่างไร


ตัวอย่างที่ 3 สืบเนื่องจากครูเป็นคนสื่อสารอะไรไม่ค่อยเข้าใจ สังเกตุจากการอธิบายงานให้ผู้บังคับบัญชา หรือเพื่อนร่วมงานฟัง ทุกคนจะไม่เข้าใจแล้วก็ทำให้ครูต้องอธิบายหลายรอบกว่าทุกคนจะเข้าใจ แต่เมื่อถึงวันหนึ่งที่ครูได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนของแผนก ในการฝึกอบรมพนักงานด้วยกัน และพนักงานใต้บังคับบัญชา และต้องสรุปการฝึกอบรมและต้องสรุปผลรายงานผลต่อที่ประชุมทุกๆ เดือน ทำให้ครูก็ต้องทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายตรงนี้ให้ดีที่สุด ต้องกล้าแสดงออก กล้าพูด กล้าที่จะเรียนรู้วิธีการพูด ว่าจะพูดอย่างไร สอนอย่างไรให้เพื่อนร่วมงานและผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าใจ กล้าที่จะออกไปอยู่หน้าห้องประชุม เพื่อพรีเซ้นต์งาน แล้วครูก็ทำมันได้



ตัวอย่างที่ 4 การฝึกหัดขับรถของตัวครูเอง ยอมรับเลยว่ายากมาก ครั้งแต่เป็นคุณแม่ของครูเองที่เป็นสอนให้ ฝึกหัดจากเกียร์ธรรมดา แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ ต่อมาน้องสาวก็สอนให้อีก แต่เนื่องจากขาดการฝึกฝนเพราะไม่มีรถฝึกหัดเองทำให้การเรียนก็ไม่ได้ผลอีกเช่นเดิม จนกระทั่งได้ไปเรียนขับรถมา 1 คอร์ส ได้รับใบขับขี่มา แต่ก็ยังขับไม่ได้ ขับได้แค่งูๆ ปลาๆ และขับได้แต่เกียร์ออโต้ และครูก็คิดในใจเสมอว่า ชาตินี้ครูคงขับรถเกียร์ธรรมดาไมไ่ด้แน่ๆ แล้วครูก็ได้ซื้อรถกะบะเกียร์ออโต้ออกมาด้วยความคิดว่าอยากมีรถกะบะ แต่ทำไงละ ในเมื่อขับไม่ได้ บังเอิญรถรุ่นใหม่ๆ มีเกียร์ออโต้แล้ว ก็เลยได้มีความหวังว่า ออโต้ก็ได้ ขับได้แบบไหนก็ซื้อแบบนั้น 



ครูต้องขอบคุณนักเรียนทุกคนและทุกๆ เหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาในแต่ละช่วงของชีวิตที่ทำให้ครูกล้าที่จะพัฒนาตัวเองให้เก่ง แกร่ง และ ครูสัญญาว่า ครูจะดูแลลูกศิษย์ทุกคนของครูอย่างดีที่สุด



ที่เล่ามาทั้งหมดขอให้เป็นแนวคิดกับทุกคนนะคะ คนเราเกิดมาไม่ได้ทำอะไรเก่งไปซะทุกอย่าง แต่คนเราจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ อยู่ที่การฝึกฝน อยู่ที่การพัฒนา ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้นะคะ ทุกคนสามารถทำทุกอย่างได้ ในโลกนี้ไม่มีคนเก่ง หรือคนไม่เก่งค่ะ มีแต่คนที่ลงมือทำลงมือฝึกฝนจำสำเร็จกับคนที่ไม่ลงมือทำไม่ฝึกฝนแล้วก็ไม่สำเร็จค่ะ

คิดบวก และ ฝึกฝนต่อเนื่องค่ะ ทำได้ทุกคน




สนใจเรียนขับรถยนต์

กับครูผู้มีประสบการณ์การสอน ครูใจเย็น ครูใจดี ครูผู้หญิง หรือท่านมีปัญหาเรื่องการสอบขอรับใบอนุญาติขับขี่ หัดขับกันเองไม่เป็น กลัวเกิดอุบัติเหตุ สอนกันไม่เข้าใจ ทะเลาะกัน มาปรึกษาเราสิคะ เขมจิรา ยินดีให้คำแนะนำทุกท่านค่ะ
โทร. 092-997-4249,063-196-4492

Line ID:  fondrivingschool
https://www.facebook.com/PrachuabDrivingSchool/
http://prachuabdrivingschool.blogspot.compot.com/

http://www.prachuabdrivingschool.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น